10 เมษายน 2553

กล่องนมฮะ กล่องน้ำผลไม้ฮะ...ยินดีต้อนรับฮะ...






ในวันที่ถุงพลาสติคได้มีการคัดแยกจากสายพานและจำหน่ายออกไปโดยไม่ได้ล้างทำความสะอาด ได้ผ่านมาระยะหนึ่งแล้ว ยังจำได้ว่า มีความพยายามที่จะหาช่องทางการนำเอากล่องนม กล่องน้ำผลไม้กลับไปใช้ใหม่อยู่ในใจเสมอ เพราะดูจากข้อมูลในเว้ปไซท์หลายแห่ง อาทิ ชมรมผู้ผลิตกล่องเครื่องดื่ม http://www.thaibcg.com/ เป็นต้น ก็ได้ความรู้ว่า ถ้านำไปฝังกลบจะย่อยยากมาก เพราะมีวัสดุซ้อนกันถึงหกเจ็ดชั้นเป็นเนื้อกล่อง แต่หากนำกลับไปใช้ใหม่ ก็มีกระบวนการที่สามารถนำไปทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ได้

ตรงนี้เองเมื่อแรกจึงได้ให้มีการคัดแยกกล่องนม กล่องน้ำผลไม้จากสายพาน โดยไม่ได้สนใจถึงความมีมูลค่า เพียงรู้แต่ว่ากว่าจะเป็นกล่องเหล่านี้ต้องมีกรรมวิธีมามาก ทำอย่างไรจึงจะนำกลับไปใช้ใหม่ให้คุ้มค่ากับการผลิต และเกิดประโยชน์สูงสุด

เมื่อได้คัดแยกแล้ว ก็เก็บสะสมแบบไม่มีอนาคตอยู่หลายเพลา อย่างน้อยก็พอใจแล้วว่าน่าจะมีโอกาสนำส่งชมรมอาสาสมัครรวบรวมกล่องนมให้ไปใช้ประโยชน์ได้ เหมือนกับที่เทศบาลฯ ได้ทำโครงการเก็บแยกคืนหลอดฟลูออเรสเซ้นท์มาหลายปี โดยนำหลอดนีออนชำรุดแล้วนำส่งบริษัทโตชิบากลับไปรีไซเคิลใหม่ ซึ่งแม้จะต้องเสียค่าขนส่งและไม่เกิดรายได้ใด ๆ ก็มีความสุขที่หลอดนีออนชำรุดจะไม่ถูกนำไปรวมปนไว้ในหลุมฝังกลบ

จำได้อีกว่า กล่องนมและกล่องน้ำผลไม้ที่คัดแยกออกมามีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และเปลืองที่เก็บมาก เคยมีคุณแก้วผู้มีใจรักสิ่งแวดล้อม ได้นำเอากล่องเหล่านี้ไปล้างทำความสะอาดก่อนเพื่อหมายจะนำส่งให้ชมรม แต่ที่สุดก็ได้นำส่งคืนเทศบาลฯ เพราะเกินกำลังของเธอ เทศบาลฯ เองก็เคยนำกล่องเหล่านี้ที่คัดแยกแล้วกลับไปฝังที่หลุมเพราะอับจนหนทางอยู่ครั้งหนึ่ง เพราะเกือบจะล้มเลิกความตั้งใจ

กระนั้นก็ดี ยังมีความพยายามที่จะไปให้ถึงชมรมฯ หรือผู้ประกอบการรีไซเคิลให้ได้ จนน้ำ เพ็ญวดีได้เจอข้อมูลเข้าในวันหนึ่ง หลังจากได้ถูกทวงถามความคืบหน้าแบบหน้าบึ้ง ๆ บ่อย ๆ แล้วก็ มีการเดินทางไปชมและรู้จักโรงงาน ซึ่งรวมความว่าพร้อมจะรับซื้อกล่องนมไปแปรรูปเป็นวัสดุต่าง ๆ ขณะที่ปัญหาการเปลืองที่เก็บก็ทำให้ต้องจมอยู่ในวังวนของการคิดจะสร้างแต่เครื่องอัดก้อนกล่องเหล่านี้อยู่ท่าเดียว ไปขอให้โรงกลึงทำเครื่อง ก็ออกมาคนละวัตถุประสงค์ ครั้นพอจะทำใหม่ ก็ทราบว่าราคาเหยียบแสน ต้องถอย และเป็นขณะเดียวกับที่เห็นภาพจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นว่าโรงเรียนชำนาญฯ มีเครื่องอัดก้อน ภายหลังทราบว่าลงทุนหมื่นกว่าบาท ทำให้เริ่มเห็นอนาคตแล้ว

แต่แล้วในที่สุด ความคิดแว้บเดียวก็บังเกิดขึ้นว่า ทำไมไม่ไปเช่าร้านรับซื้อของเก่าที่เขามีเครื่องใช้งานอยู่แล้วทำการอัดก้อน สุดท้ายจึงนำกล่องนมที่รวบรวมไว้ทั้งหมดเกือบสองเที่ยวรถหกล้อไปอัดก้อนได้สามก้อนน้ำหนักหนึ่งพันกับหกสิบกิโลกรัม ใช้เวลาหลายชั่วโมง มอบค่ากระแสไฟฟ้าและเครื่องอัดแก่ร้านไปห้าร้อยบาท และหมอเถียรกับตาจิ๋มสามารถนำส่งโรงงานที่บางพลีได้ในที่สุด ในราคากิโลกรัมละหกบาท

และอนาคตของการรวบรวมกล่องนมนั้น นอกจากจะได้จากสายพานคัดแยกขยะเช่นที่ผ่านมาแล้ว ยังจะได้แจ้งให้พนักงานประจำหลุมขยะได้คัดแยกอีกช่องทางหนึ่ง และจะประสานกับโรงเรียนระดับประถมทั้งอำเภอแกลง วังจันทร์ เขาชะเมาเพื่อให้มีการรวบรวมกล่องนมในโครงการอาหารเสริมของรัฐบาลมาจำหน่ายแก่เทศบาลฯ เพื่อนำเงินกลับไปพัฒนาโรงเรียนแทนการปล่อยทิ้งขว้างไปอย่างสูญเปล่า

เหล่านี้จึงเป็นเรื่องโอ้ละหนอของที่มา และโอ้ลัลล้าของกล่องนม กล่องน้ำผลไม้ที่กำลังจะก้าวต่อไปด้วยประการฉะนี้....เอย

ไม่มีความคิดเห็น: