03 มกราคม 2553

ก้อนพลังงาน





เพ่งพิศพินิจดูกองขยะที่มาจากบ้านเรือนชาวบ้านเพื่อดั๊มพ์ก่อนขึ้นสายพานคัดแยกมานานแรมปี มาวันหนึ่งจึงรู้ว่า กองขยะนี้ เปรียบเหมือนก้อนพลังงานหรือก้อนแบตเตอรีที่มีพลังงานสะสมอยู่
มันจะเป็นอื่นไปไม่ได้ เพราะวัสดุทุกชนิดในกองขยะนี้ มันถูกผลิตด้วยการอาศัยพลังงานทั้งสิ้น จะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงจากภาคขนส่ง ภาคการผลิต หรือกระแสไฟฟ้าที่ต้องใช้ในการผลิต หรือแม้แต่แรงงานของคนที่ถูกใช้ในกระบวนการผลิต แรงงานก็มาจากการสะสมพลังงานของร่างกายที่ต้องบริโภคสารอาหารจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อให้ได้พลังงาน หมุนเวียนกันไม่รู้จบ
กองขยะเหล่านี้ จึงมีพลังงานแฝงอยู่พร้อมที่จะสปาร์ค หรือ สตาร์ทสิ่งใด ๆ จากพลังงานที่มันสะสมอยู่เสมอ อาทิ เมื่อเรานำมันขึ้นสายพานคัดแยกเป็นเศษขยะอินทรีย์ (คิดง่าย ๆ คือของที่เน่าเสียได้) หรือรู้จักแยกประเภทเศษอาหาร เศษผักผลไม้ไว้ตั้งแต่ที่บ้าน แล้วนำไปให้สัตว์กิน สัตว์ก็มีพลังงานที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ และพร้อมที่จะให้ประโยชน์กับเราในรูปของเนื้อ นม ไข่ หรือมูลปุ๋ยคอก
หรือเมื่อนำไปวางกองทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยหมักก็จะไปเป็นพลังงาน เป็นธาตุอาหารในดิน ให้เหมาะที่จะเพาะปลูกพืชผักได้ต่อ
เมื่อเราแยกขยะรีไซเคิลออกมาแล้วส่งต่อโรงงานรีไซเคิล ขยะรีไซเคิลมันก็สามารถถูกแปรรูปหรือปรับสภาพให้สามารถนำกลับไปใช้ใหม่ได้อีกครั้ง แทนที่พลังงานที่เกิดจากการต้องหาวัสดุใหม่มาใช้ในการผลิต
ถุงพลาสติคที่เราคัดแยกก็เช่นกัน ที่จะนำไปแปรรูปเป็นพลังงานในรูปของน้ำมันเชื้อเพลิงแทนการต้องขุดจากใต้พิภพขึ้ันมาใช้แต่วิธีเดียว
จึงสำหรับในวันนี้ เมื่อพิศดูจากกองขยะที่บอกกล่าวกันว่ามันคือก้อนพลังงาน หรือก้อนแบตเตอรีีที่สะสมพลังงานอยู่ หากเรารู้และเข้าใจที่จะหาทางนำมันมาใช้ ก็เพราะเราแยกได้ทั้งขยะอินทรีย์ ขยะรีไซเคิล และถุงพลาสติค สามประเภท
และที่เหลือจากนี้ แม้ต้องลำเลียงไปยังหลุมฝังกลบก็ตาม แต่...ณ ที่แห่งนั้น ก็เปรียบดังขุมทองแม็คแคนนาไม่ปาน เพราะกำลังมีการคิดที่จะนำเอาแก๊สมีเทนจากขยะตรงนั้นไปใช้ประโยชน์ หรืออีกหนทางหนึ่งก็คือ นำเอาขยะตรงนั้นไปเผาเพื่อต้มน้ำและเอาแรงดันไอน้ำ (หลักการคล้ายหัวรถไฟสมัยโบราณ) ไปปั่นเครืื่องเจเนอเรเตอร์สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้ากลับมาใช้กันใหม่ต่อไป
ป่วยการต้องไปขุดทองที่ถ้ำลิเจียที่แสนละเหี่ยใจ หรือร่อนเศษทองที่นั่นที่นี่ เพราะบ้านเรามีทองอยู่ทุกวี่ทุกวัน

ไม่มีความคิดเห็น: