14 มกราคม 2553

เรื่องแรกเมื่อแรกเริ่มปี ๕๓






วันจันทร์ที่ ๔ มกรา นัดเวลาที่ ๘ โมงเช้ากับเจ้าหน้าที่งานสวนฯ กองช่างและงานกองสาธารณสุขราว ๔๐ คน เพราะอยากพูดคุยกันเสียแต่ต้นปีให้เกิด "ความเข้าใจร่วมกัน" หนึ่งนั้นคือ ขอให้ร่วมกันทำงานจัดการของเสียให้เป็นของดีนี้ด้วยความตั้งใจร่วมมือกัน ได้เล่าว่า ณ ที่แห่งนี้ ทุกอย่างเกิดขึ้นได้เพราะ "ก้อนพลังงาน" จากที่มอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง ปิคอัพ และรถหกล้อที่ไปนำมาจากครัวเรือนในเขตเมือง
ได้เล่าต่อไปว่า รายรับของเจ้าหน้าที่ทุกคนจะมาจากสายพานที่เรานำมาคัดแยกขยะรีไซเคิล ถุงพลาสติค และขยะอินทรีย์ที่นำไปทำปุ๋ย และเศษอาหาร เศษผักผลไม้จากการไปบรรทุกมาของมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมูหลุม แพะ กระต่าย ไส้เดือน วัว จุลินทรีย์ ที่จะต้องแปลงให้เป็นปุ๋ยบำรุงดินแก่เรา เจ้าหน้าที่ทั้งสองกองจะแยกกันทำงานไม่ได้ เพราะเนื้องานจะผูกโยงกันดังว่า เช่นเดียวกับไขมันที่นำไปทำหน้าที่เหมือนกับไม้ฟืนต้มน้ำร้อนในโรงฆ่าสัตว์
กระบวนการเหล่านี้ เมื่อมาถึงขณะนี้ "การทำให้เกิดประสิทธิภาพ" จึงเป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงต่อไป เช่น กรณีการลำเลียงขยะขึ้นสายพาน ทำอย่างไรจึงจะเหนื่อยน้อยลง แต่ประหยัดเวลาและได้ผลมากขึ้น เป็นต้น
ปิดท้ายวันนั้น คือการมอบเงินจากขยะรีไซเคิลและปุ๋ย พืชผักต่าง ๆ ที่ขายได้แก่คนทั้งกว่าสี่สิบคน โดยที่เทศบาลฯ ก็ได้ประโยชน์จากการประหยัดค่าใช้จ่ายในการจัดการของเสียเมื่อมีการคัดแยกและนำกลับมาใช้ใหม่ โดยที่ "ดิน" ก็ได้ธาตุอาหารไปบำรุงให้มีชีวิตเพื่อไปผลิตอาหารที่ปลอดภัยกลับมาสู่คน และโดยที่ "โลก" ก็ได้รับการบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อนจากหน่วยงานเล็ก ๆ จากเราอย่างสมประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย...และ...
หากการจัดการของเสียด้วยวิธีที่กล่าวมานี้ เคยมีผู้คิดค้นไว้ก่อนหน้า ก็นับได้ว่าเราได้แปรเอาความคิดดังว่ามาสู่การปฏิบัติและลงมือทำเป็นกิจวัตร แต่หากยังไม่มีผู้ใดผูกโยงเรื่องราวต่าง ๆ ให้ออกมาเป็นเรื่องราวเช่นที่เรากำลังทำอยู่ เราก็ควรพอใจและดีใจที่ได้เลือกหนทางพัฒนาเมืองด้วยพวกเรากันเอง

ไม่มีความคิดเห็น: